การทำทรีตเมนต์เพื่อสภาพผิวหน้าที่ดีขึ้น

มีผลิตภัณฑ์และการรักษาที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างและปรับปรุงความงามตามธรรมชาติของใบหน้าและผิวของคุณ
    วัยที่เพิ่มขึ้นและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ก่อให้เกิดกระบวนการผลิตเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยอันนำมาซึ่ง กระ ฝ้า และจุดด่างดำบนใบหน้า ชั้นผิวหนังแบ่งออกง่ายๆ เป็น 2 ชั้นคือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มีความบางและอยู่ด้านบนสุดของผิว และชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไป ระหว่างชั้นผิวนี้จะมีเซลล์สร้างเม็ดสีที่เรียกว่า “เมลาโนไซต์” (Melanocytes) ซึ่งเป็นส่วนที่ให้สีแก่ผิวของคนเรา สำหรับคนที่มีสภาพผิวเป็นปกติ เมลาโนไซต์จะกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
ระหว่างชั้นผิวหนังทั้งสอง แต่เมื่อใดก็ตามที่เมลาโนไซต์มากระจุกตัวรวมกัน หรือทำงานสร้างเม็ดสีมากผิดปกติ ก็จะทำให้เกิดจุดด่างดำหรือเม็ดสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะปรากฏให้เราเห็นเป็นกระหรือฝ้า
    ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นนำมาซึ่งริ้วรอยเหี่ยวย่นอันไม่พึงปรารถนา หากเปรียบผิวของเราเหมือนหมอนใบหนึ่ง ลึกลงไปภายในชั้นผิวหนังแท้นั้นเต็มไปด้วยเส้นใย “อีลาสติน” และ “คอลลาเจน” (เปรียบเสมือนนุ่นใหม่ๆ ที่พองฟูเต็มอยู่ในหมอน) ซึ่งผลิตขึ้นโดยเซลล์ที่เรียกว่า “ไฟโบบลาสต์” (Fibroblasts)
เมื่อวัยเพิ่มมากขึ้น ไฟโบบลาสต์ก็มีอายุมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นมันก็จะทำการผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง อีกทั้งอายุที่มากขึ้น เส้นใยเหล่านี้ก็เสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ ผลจากการนี้เอง ทำให้องค์ประกอบของผิวเสื่อมสภาพ จึงก่อให้เกิดผิวบางหย่อนยานและทำให้เกิดริ้วรอย (เปรียบเสมือนหมอนที่มีนุ่นอยู่น้อย) นอกจากนี้แล้ว ไฟโบบลาสต์ยังสามารถถูกทำลายจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดมาเป็นระยะเวลานาน
การทำทรีตเมนต์ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์จะทำให้ตัวยาซึมลึกสู่ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการผลิตเส้นใยคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวกลับคืนสู่ความเรียบเนียน กระชับ เฉกเช่นผิวสุขภาพดี การทำทรีตเมนต์นี้ ยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า และใช้รักษาบุคคลที่ผิวเป็นหลุมจากสิวด้วย
ถาม-ตอบ
ถาม : ใช้เวลาในการทำนานเท่าไร
ตอบ : ประมาณ 30 – 40 นาทีต่อครั้ง

ถาม : ต้องทำบ่อยแค่ไหน
ตอบ : ควรทำทรีตเมนต์ต่อเนื่องกันทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวคงความกระชับและมีสุขภาพผิวดี

ถาม : เจ็บหรือไม่
ตอบ : ไม่เลย คุณจะรู้สึกเย็นสบาย